บริษัท สยามโกลบอลเฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) หรือ GLOBAL ผู้นำด้านค้าปลีกวัสดุก่อสร้างและสินค้าตกแต่งบ้านแบบครบวงจร ได้รับการคัดเลือกจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยให้อยู่ในรายชื่อหุ้นยั่งยืน ประจำปี 2565 หรือ Thailand Sustainability Investment (THSI) ในกลุ่มอุตสาหกรรมบริการ (Services) ต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 จากการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน ภายใต้แนวคิดของการคำนึงถึงสิ่งแวดล้อม สังคม และบรรษัทภิบาล (Environmental, Social and Governance หรือ ESG) ตลอดจนการคำนึงถึงผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกฝ่าย โดยการประเมินจะครอบคลุมคำถามในมิติ ESG ทั้งนี้ ตลาดหลักทรัพย์ฯ จะมีการทบทวนแบบประเมินทุกปีให้สอดคล้องกับบริบทและแนวโน้มด้านความยั่งยืน (Sustainability Trends) ที่มีการเปลี่ยนแปลงทั้งในระดับสากลและระดับประเทศ

บริษัท สยามโกลบอลเฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) ได้มุ่งยกระดับพัฒนาและมุ่งมั่นขับเคลื่อนองค์กร โดยได้ตระหนักและให้ความสำคัญในการดำเนินธุรกิจในเรื่องของสิ่งแวดล้อม มีความรับผิดชอบต่อสังคม และมีการบริหารงานภายใต้หลักบรรษัทภิบาล (Environmental, Social and Governance หรือ ESG) มาอย่างต่อเนื่อง

ที่ผ่านมา บริษัทฯ มีนโยบายดำเนินธุรกิจควบคู่ไปกับการกำกับดูแลกิจการ เพื่อให้ทุกฝ่ายมีแนวปฏิบัติไปในทิศทางเดียวกัน และสร้างความเข้มแข็งให้องค์กรเติบโตอย่างยั่งยืน ในส่วนการดูแลรักษาสิ่งแวดล้อม และลดการใช้ทรัพยากรอย่างสิ้นเปลือง เพื่อดูแลรักษาทรัพยากรธรรมชาติ ช่วยลดโลกร้อน ลดการเกิดก๊าซเรือนกระจก ด้วยการติดตั้งโซล่ารูฟท็อป (Solar Rooftop) โดยได้ดำเนินการใช้พลังงานแสงอาทิตย์ ซึ่งเป็นพลังงานสะอาดจากธรรมชาติ เป็นจำนวนทั้งสิ้น 77 สาขาเป็นที่เรียบร้อย โกลบอลเฮ้าส์มีกำลังติดตั้ง Solar ทั้งหมดเท่ากับ 64,389.53 kWp สามารถผลิตไฟฟ้าได้ 75,420,484 kWh โดยถือเป็นการลดการใช้ถ่านหินได้ 17,172 ton มีการลดปริมาณก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้เท่ากับ 42,929 tCo2 เทียบเท่ากับปลูกต้นไม้ได้ถึง 2,352,562 ต้น อ้างอิงข้อมูลการเปรียบเทียบจาก องค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก

บริษัทฯ ยังคำนึงถึงผลประโยชน์ต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม อาทิ แคมเปญใช้ร้อยชิงล้านซีซั่น 9 เพื่อตอบแทนลูกค้าที่ให้ความไว้วางใจเสมอมา โดยได้มีการปรับเปลี่ยนรูปแบบการจับรางวัล จากการจับรางวัลโดยใช้กระดาษเป็นการจับรางวัลแบบระบบดิจิทัล และมีการมอบโชครางวัลใหญ่เป็น รถยนต์ไฟฟ้า EV โดยมีเป้าหมายเพื่อลดการใช้กระดาษ และลดการเผาไหม้เชื้อเพลิงในระยะยาว สอดคล้องตามนโยบายของประเทศไทย ที่มีมาตรการมุ่งสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) และการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero GHG Emission)

นอกจากนี้บริษัทฯ ยังตระหนักถึงการพัฒนาการเกษตรอย่างยั่งยืน ด้วยการคัดสรรสินค้าเกษตรคุณภาพดี จากเกษตรกรไทย ในโครงการเกษตรดี โดยโกลบอลเฮ้าส์เป็นช่องทางในการจัดจำหน่ายและกระจายสินค้าการเกษตรไปยังสาขาต่างๆทั่วประเทศ เพื่อให้ผู้บริโภคได้รับสินค้าที่สดใหม่ ปลอดสาร และราคาถูก โกลบอลเฮ้าส์ขอเป็นส่วนหนึ่งในการส่งเสริมเกษตกรชาวไทยให้ยั่งยืน